มีรายชื่อติดหนึ่งในศิลปินที่ถูกเอี่ยวโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงอินสตาแกรมส่วนตัว ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ล่าสุด พระเอกหนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังว่าตอนนี้ได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอนัดอีกรอบเพื่อเปรียบเทียบค่าปรับ พร้อมชี้แจงสิ่งที่โพสต์เพราะอยากช่วยคนรู้จัก และไม่เคยรู้ข้อกฎหมายตรงนี้มาก่อน พร้อมบอกขอน้อมรับผิด จากนี้จะโพสต์อะไรคงต้องระวังให้มากขึ้น
เรามีรายชื่อต้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตอนนี้เรียบร้อยแล้วหรือยัง ?
“เข้าไปเรียบร้อยแล้วครับเมื่อวันก่อน ทางผู้ใหญ่ก็ได้โทรมาทางพี่เบิ้ล (ผู้จัดการส่วนตัว) เราก็เลยไป ได้มีการเปรียบเทียบค่าปรับ และแจ้งข้อผิดพลาดให้เราทราบ บางทีเราก็ต้องยอมรับว่าเราไม่ได้ทราบเรื่องข้อกฎหมายข้อนี้ อีกอย่างที่เราช่วยเหลือเพราะเป็นของเพื่อนและผู้ใหญ่ที่รู้จัก ก็ยอมรับผิดและขอโทษ เพราะผมไม่ได้มีเจตนาอะไร ส่วนตัวไอจีผมจะไม่ค่อยมาโพสต์ทางนี้อยู่แล้ว นอกจากของเพื่อนจริงๆ เขาก็บอกเข้าใจๆ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบ ผมก็ยอมรับผิด และเปรียบเทียบค่าปรับไป”
โดนปรับเท่าไหร่ ?
“น่าจะเท่ากับทุกคนนะครับ แต่ยังไม่ทราบว่าตัวเลขจริงๆ เท่าไหร่ ต้องรออีกรอบ”
ได้มีการขอให้ช่วยรณรงค์เรื่องนี้บ้างไหม ?
“ตั้งแต่สองปีก่อนที่ไปพบคุณด็อกเตอร์นะครับ แกก็ให้ความร่วมมือ ขอความร่วมมือ ซึ่งเราก็ให้ความร่วมมือตลอดนะตั้งแต่นั้นมา และเราก็ค่อนข้างจะเคร่งคัดเรื่องการโพสต์มาตลอดเรื่องเกี่ยวกับแอลกอฮอล์ จริงๆ เจ้าหน้าที่ก็พูดประโยคเดิมซึ่งเราก็เข้าใจและโอเคอยู่แล้ว”
เห็นบอกว่าจะมีการเดินทางเข้าพบอีกรอบ คือช่วงไหน ?
“จริงๆ มันจะมีอีกรอบหนึ่งคือการเปรียบเทียบค่าปรับ แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่าต้องไปด้วยตัวเองหรือเปล่า ซึ่งเราก็ไม่ได้มีปัญหา ต้องไปรับทราบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบวันเลยครับ อยู่ในช่วงค่อยๆ ไล่เจอพี่ศิลปินไปก่อน”
ตอนนี้โล่งใจขึ้นหรือยัง ?
“ครั้งแรกคือตกใจครับ อีกแล้วเหรอ (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องเก่า แต่เราก็เข้าใจกฎหมาย ผิดอะไรก็ว่ากันไปตามผิด ที่บ้านก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะเราไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็ไปรับทราบตามกฎหมาย กฎหมายเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งมันก็เป็นเครื่องบอกให้ผมรู้ว่าผมต้องใส่ใจกฎหมายมากขึ้นนะ ยิ่งเราเป็นบุคคลสาธารณะ บางคำหากพิมพ์ผิดหรือตกลงไปก็อาจจะเป็นเรื่องได้ มันก็เป็นเรื่องสอนใจและเป็นเรื่องที่คนในวงการบันเทิงต้องรับทราบ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่ดีนะ”
พอเกิดเรืองนี้ขึ้น ทำให้เรากลัวจะเสียภาพลักษณ์หรือเปล่า ?
“ไม่ครับ เป็นผมเหมือนเดิม ไม่ได้อะไร ทุกคนก็จะรู้ พอไปดูรูปที่ผมลงกับอาหารเช้ามันก็จะตลกอยู่แล้ว แต่เราช่วยเพราะเป็นเพื่อนเรา ผมว่าภาพคือสิ่งที่คนดูแล้วรู้อยู่แล้วว่าคนนั้นเขาคิดจะทำอะไร และเขากระทำแบบนี้มาต่อเนื่องหรือเปล่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผมก็ไม่ค่อยได้ดื่มอะไรมากอยู่แล้วครับ ผมไม่เคยปฏิเสธว่าไม่ดื่มเลย แต่ด้านอื่นเราก็ส่งเสริมให้คนออกไปทำดีนะเราก็บอก โครงการอะไรที่ส่งเสริมเยาวชนผมก็ไป อะไรที่ดีผมก็ทำ”
เพื่อนที่ให้เราช่วยโพสต์ว่ายังไงบ้าง ?
“ทุกวันนี้ก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น (หัวเราะ) สนิทกันมากขึ้น เพราะเขาก็รู้สึกเกรงใจ แต่เราก็บอกไม่เป็นไรหรอก ช่วงนั้นพวกพี่เหล่าศิลปินดาราหลายท่านก็ไม่ทราบเหมือนผมเหมือนกัน และเราก็ไม่รู้ว่าผิดมาก่อน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล”
เพื่อนจะออกค่าปรับให้แทนไหม ?
“ไม่ครับ ผมออกเองได้ เอาเงินที่ทำงานนี่แหละครับออกไป แต่มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากครับ ไม่ได้ซีเรียส”
เห็นไปทะเลกับยิปซีด้วยกัน แต่ไม่มีรูปคู่ออกมาเลย ?
“มันตั้งนานแล้วนิครับ ที่บอกว่าไปด้วยกัน ไม่ได้มีอะไร แต่เหตุผลที่ไม่ได้ลงรูปเพราะผมไปแค่วันเดียว แล้วชุดเสื้อผ้าคือผมไม่ชอบอ่า มันไม่ชอบที่ตัวเรา แต่เราชอบถ่ายรูป ตอนนี้เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปเรื่อยๆ ครับ พัฒนาเมื่อไหร่หรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไรก็บอก เราก็โตกันแล้ว และก็ไม่ชอบให้ใครมาถามว่าอะไรยังไง เขาเป็นผู้หญิงที่มีโลกของเขา ผมก็มีโลกของผม แค่พัฒนาจากความเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ ถ้ามันหยุดตรงไหนก็ตรงนั้น”
มีโอกาสไหม ?
“ตอนนี้เราก็สนิทกันอยู่ครับ ผมไม่ได้มาบอกหรือขีดเส้นว่าเป็นกำลังใจให้กันเหมือนคู่อื่นเขา เพราะทุกวันนี้มันก็ไม่ต่างจากวันนั้น เพียงแต่เรานับว่าเขาเป็นคนที่สนิทมาก”
จะใช้คำนิยามว่ายัง ?
“ความรักมันไม่ต้องมีคำนิยามหรอกครับ”
สรุปว่าเป็นความรักแล้ว ?
“ไม่ใช่ครับ (หัวเราะ) ก็เป็นเรื่องดีๆ ไม่มีนิยามครับ เดี๋ยวพี่คุยกับผมหลังไมค์นะ (ยิ้ม) ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ครับ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”